1. แบบบ้าน
2. สัญญาว่าจ้างระหว่างเรากับผู้รับเหมา
3. ใบรายการวัสดุพร้อมประเมินราคาจากผู้รับเหมา
4. ใบอนุญาตก่อสร้าง
5. โฉนดที่ดิน
6. หากว่าโฉนดของที่ดินที่จะปลูกสร้างไม่ใช่ชื่อเราเป็นเจ้าของ ต้องให้เขาทำหนังสือยินยอมให้ปลูกสร้างได้ (ถึงแม้ว่าจะนามสกุลเดียวกันก็ตาม)โดยแบบฟอร์มที่สำนักงานที่ดินเขตก็มีให้ หรือ จะทำขึ้นมาเองก็ได้โดยขั้นตอนนี้จะต้องไปยื่นพร้อมกับหลักฐานตอนขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งหลักฐานเพิ่มเติมก็จะมี
6.1 หนังสือยินยอม
6.2 สำเนาประชาชน ทะเบียนบ้านของเจ้าของโฉนดผู้ยินยอมและจะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการประเมินราคาหลักประกันที่จะนำไปใช้ในการขอกู้ด้วย
หลังจากนั้นเมื่อยื่นกู้แล้ว ธนาคารหรือสถาบันการเงิน จะส่งเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินราคาบ้านและที่ดินที่จะนำมาจำนองเป็นหลักประกัน โดยทั่วไปก็จะใช้แวลาประมาณ 2-7 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารและสถาบันการเงิน
ธนาคารและสถาบันการเงินจะพิจารณาคำขอกู้โดยจะทำการวิเคราะห์รายได้ ฐานะทางการเงิน ความสามารถในการผ่อนชำระ และหลักประกันของผู้กู้รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ และจะแจ้งผลการขอกู้ให้ผู้กู้ทราบ โดยปกติทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารและสถาบันการเงิน
เมื่อได้รับอนุมัติกู้แล้ว ผู้กู้ก็จะต้องลงนามในสัญญากู้เงินและสัญญาจำนอง พร้อมทั้งนัดวันไปทำนิติกรรมจำนองที่สำนักงานที่ดิน
ในวันโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองบ้านที่เราจะซื้อที่สำนักงานที่ดิน ผู้กู้ซึ่งก็คือเรา ผู้ขายบ้านให้เรา และเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินจะไปพร้อมกันที่สำนักงานที่ดินที่หลักทรัพย์ตั้งอยู่ ทั้งนี้เราจะต้องเตรียมเงินเป็นค่าจดทะเบียนจำนองตามปกติร้อยละ 1 ของวงเงินกู้ไปด้วยนะคะ และจะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิมธิ์ตามปกติร้อยละ 2 ของราคาประเมินของกรมที่ดิน ซึ่งโดยทั่วไปผู้ขายมักจะเป็นผู้จ่ายเว้นแต่จะตกลงกันเป็นอย่างอื่น
เมื่อทุกขั้นตอนเรียบร้อยเจ้าหน้าที่จะจ่ายเงินกู้ให้ผู้กู้เป็นแคชเชียร์เช็ค เพื่อให้ผู้กู้จ่ายเงินคงเหลือให้กับเจ้าของโครงการ หรือผู้ขาย และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตามขั้นตอนต่าง ๆ แล้ว ต่อไปก็จจะเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องมีภาระในการผ่อนชำระงวดให้แก่ทางสถาบันการเงินที่เราไปกู้มาทุกเดือนภายในเวลาที่กำหนดตามสัญญา
เรียบเรียงข้อมูล และภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต