1.หลักฐานส่วนตัว ประกอบด้วย
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- บัตรประจำตัว
- ทะเบียนสมรส หรือทะเบียนหย่าหรือใบมรณบัตร
- สำเนาเปลี่ยนชื่อ สกุล (ถ้ามี)
2.หลักฐานเกี่ยวกับรายได้ แบ่งเป็น 2 กรณี คือ
2.1.กรณีเป็นผู้มีรายได้ประจำต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- ใบรับรองเงินเดือน หรือหลักฐานการรับ/จ่ายเงินเดือนจากนายจ้าง
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร
2.2กรณีประกอบอาชีพอิสระต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- สำเนาทะเบียนการค้า หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
- -บัญชีเงินฝาก พร้อม Statement บัญชีเงินฝากกระแสรายวันย้อนหลัง 6 เดือน
- หลักฐานรายได้หรือทรัพย์สินอื่นๆ
หลักฐานเกี่ยวกับหลักทรัพย์และการซื้อขาย ประกอบด้วย
- สำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด
- แผนที่แสดงทำเลที่ตั้งของที่ดินหลักประกัน
- สำเนาสัญญาจะซื้อจะขายหรือสัญญามัดจำ
- กรณี เป็นการซื้อห้องชุด ต้องมีสำเนาหนังสือสำคัญการจดทะเบียนอาคารชุดรายละเอียดทรัพย์ส่วนบุคคล และทรัพย์ส่วนกลางหลักฐานอื่นๆ ส่วนใหญ่ธนาคารจะแจ้งให้กับผู้กู้ทราบ หรือในกรณีที่มีการกู้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ นอกเหนือจากการซื้อบ้าน เช่นกรณี
1.ขอกู้เพื่อการปลูกสร้างหรือต่อเติมอาคาร ต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- แบบก่อสร้างอาคาร
- หนังสืออนุญาตปลูกสร้างหรือต่อเติมอาคาร
- หนังสือสัญญาจ้างปลูกสร้างหรือต่อเติมอาคาร เป็นต้น
2.กรณีกู้เพื่อไถ่ถอนจำนอง ต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- สัญญากู้เงิน และสัญญาจำนองจากสถาบันการเงินเดิม
- Statement การผ่อนชำระค่างวด ใน 6 เดือนสุดท้าย ตรงนี้สำคัญเพราะจะเป็นวัติการผ่อนชำระเงินกู้ของตัวคุณเองหากมีประวัติที่ดีการอนุมัติก็จะเร็วขึ้น ง่ายขึ้น และกรณีมีผู้กู้ร่วม ท่านจะต้องเตรียมหลักฐานส่วนตัว และหลักฐานรายได้ของผู้กู้ร่วมไปด้วย
ในขั้นตอนการเตรียมหลักฐานต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ท่านจะต้องเตรียมให้ครบถ้วนเพราะจะมีผลกับการพิจารณาอนุมัติของแบงก์ หากในวันที่ยื่นกู้เอกสารไม่ครบ เจ้าหน้าที่อาจจะไม่รับเรื่อง หรืออาจรับเรื่องไว้และให้ผู้ขอกู้นำหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติม ซึ่งผู้ขอกู้ควรจะนำมาให้เจ้าหน้าที่ภายใน 3 วัน เพื่อจะไม่ทำให้การวิเคราะห์และอนุมัติเงินกู้ล่าช้าออกไป เพราะฉะนั้นการอนุมัติเงินกู้จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับการเตรียมเอกสารให้ครบด้วย