คุณสมบัติและการใช้งานของสายไฟฟ้า VAF และข้อควรระวังในการใช้งาน
สายไฟฟ้าชนิด VAF เป็นสายไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมใช้กันมากในประเทศไทยเป็นสายไฟฟ้าที่มีฉนวนหุ้มทำจากวัสดุ Polyvinyl Chloride (PVC)
ซึ่งมีคุณสมบัติทนไฟได้ในระดับหนึ่ง สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้ 300/500 โวลต์ฉนวนและเปลือกเป็นพีวีซี สามารถทนอุณหภูมิสูงสุดได้ 70 องศาเซลเซียส
สายไฟฟ้า VAF มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1.ทนต่อความร้อนสูง:
ฉนวน PVDF ของสายไฟฟ้าชนิด AVF สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้มากกว่า 70 องศาเซลเซียส โดยไม่เกิดการลุกลามไฟ
2.ทนทานต่อสภาพแวดล้อม:
ฉนวน PVDF ของสายไฟฟ้าชนิด AVF ทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมี ความชื้น และรังสียูวี
3.อายุการใช้งานยาวนาน:
ฉนวน PVDF ของสายไฟฟ้าชนิด AVF มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าฉนวน PVC ทั่วไป
สายไฟฟ้า VAF มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ
1.สาย VAF:
สายไฟฟ้าที่มีแกนเดียว ตัวนำไฟฟ้าทำจากทองแดงหรืออลูมิเนียม
2.สาย VAF-G:
เป็นสายไฟฟ้าที่มีแกนเดียวและมีสายดินเพิ่มเข้ามา
ตัวนำไฟฟ้าทำจากทองแดงหรืออลูมิเนียม
การใช้งานสายไฟฟ้าชนิด VAF:
สายไฟฟ้า VAF นิยมใช้ในงานเดินสายภายในอาคาร เช่น การเดินสายไฟภายในบ้าน อาคารสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
สามารถใช้ได้ทั้งการเดินสายลอยและเดินสายฝังผนัง แต่ห้ามใช้เดินสายฝังดิน
โดยตรง
ข้อควรระวังในการติดตั้งและการใช้งานสายไฟฟ้า VAF
1.ห้ามใช้สายในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้
2.ห้ามเดินสายในบริเวณที่มีสารเคมีหรือของเหลวกัดกร่อนสาย
3.ห้ามเดินสายไฟภายนอกอาคาร ห้ามร้อยท่อฝังดิน และห้ามไม่ให้สายแช่น้ำ
โดยสรุป
สายไฟฟ้า VAF เป็นสายไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปภายในอาคาร มีคุณสมบัติทนไฟและทนทานต่อสภาพแวดล้อม สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยหากปฏิบัติตามข้อควรระวัง