ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วหรือสายดิน

เคยสงสัยไหมว่าเราสมควรจะเดินระบบ สายดิน ไว้ในบ้านเพื่อป้องกันปัญหา ไฟรั่ว (รั่วลงดินทันที โดยเราไม่โดนไฟดูด)หรือติดตั้งเพียงเครื่องตัดไฟรั่วเพื่อป้องกันไฟดูดดี(เครื่องนี้จะทำงานเมื่อเราถูกไฟดูดไปแล้ว)




เรามาดูกันค่ะว่าประโยชน์และหน้าที่ของ สายดิน และ เครื่องตัดไฟรั่ว นั้น แตกต่างกันอย่างไร และควรจะเลือกใช้สายดิน หรือเครื่องตัดไฟรั่ว ในบ้านของเรา

สายดิน นั้น เป็นความจำเป็นอันดับแรกที่ผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องมีสำหรับ ป้องกันไฟฟ้าดูดค่ะ เพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลลงสายดินได้โดยสะดวก โดยไม่ผ่านร่างกาย (ไฟไม่ดูด) และทำให้เครื่องตัดไฟ อัตโนมัติตัดไฟออกได้ทันที

ส่วน เครื่องตัดไฟรั่ว เมื่อใช้กับระบบไฟที่มีสายดินจะเป็นเหมือนมาตรการเสริมความปลอดภัยอีกชั้น หนึ่ง เพื่อให้มีการตัดไฟรั่วก่อนที่จะเป็น อันตรายกับระบบไฟฟ้า (ไฟไหม้) หรือกับมนุษย์ (ไฟดูด)
เครื่องตัดไฟรั่วในระบบไฟทีไม่มีสายดิน เครื่องตัดไฟรั่วจะทำงานก็ต่อเมื่อมีไฟรั่วไหลผ่านร่างกายแล้ว (ต้องถูกไฟดูดก่อน) ดังนั้นความปลอดภัยจึงขึ้นอยู่กับความไวในการตัดกระแสไฟฟ้าของเครื่องตัดไฟ รั่วนั้น ๆ ซึ่งกรณีนี้หากเครื่องตัดไฟรั่วเกิดชำรุดเสียหาย หรือไม่ได้มาตรฐานก็จะเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตของเราด้วย

ระบบไฟฟ้าที่ดีจึงควรมีทั้งระบบสายดินและเครื่องตัดไฟรั่ว เพื่อเสริมการทำงานซึ่งกันและกันให้เกิดความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ของเรา


ขอบคุณที่มา http://www.mea.or.th/apd/4/main.htm#409




บทความที่เกี่ยวข้อง
เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน


21.ติดตั้งสายดินไปทำไม 

22.เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นต้องมีสายดิน

23.วิธีติดตั้งระบบสายดิน

24.ประโยชน์ของเครื่องตัดไฟฟ้ารั่ว

25.ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วหรือสายดิน

26.วิธีตรวจสอบไฟฟ้ารั่ว

27.เมื่อไหร่ควรจะเปลี่ยนสายไฟในบ้าน

28.การขอใช้ไฟฟ้าประเภทบ้าน

29.ความสำคัญของไฟฟ้า

30.อุปกรณ์ไฟฟ้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้า

PAGE    [1]     [2]     [3]


ใหม่กว่า เก่ากว่า