อีกเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจคือ กระเบื้องแต่ละแผ่นแต่ละยี่ห้อนั้น จะมีขนาดและความหนาไม่เท่ากัน เวลานำมาปูด้วยกัน ก็ดูไม่ดี ต่างจากที่ฝันไว้ลิบลับ และอาจทำให้พื้นไม่เรียบได้ กระเบื้องปูพื้น นั้นก็มีทั้งกระเบื้อง ที่ใช้ปูพื้นและปูผนัง ซึ่งกระเบื้องที่ใช้ปูผนังนั้นส่วนใหญ่ที่นิยมใช้นั้น มักจะเป็น กระเบื้องผิวมัน แต่กระเบื้องที่ใช้ปูพื้นก็มี 2 ประเภทคือกระเบื้องผิวมัน และกระเบื้องผิวหยาบขึ้นอยู่กับพื้นที่ปูว่าเป็นพื้นประเภทไหน มีลักษณะการใช้งานอย่างไร ถ้าเป็น พื้นห้องน้ำและ ลานซักล้างต้องใช้ กระเบื้องชนิดผิวหยาบ เพราะพื้นส่วนนี้ ต้องโดนน้ำจึงทำให้ลื่น และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่ถ้าเป็นพื้นภายในตัวบ้านทั่วไปก็อาจใช้กระเบื้องผิวมันครับเพื่อความสวยงาม ในการปูกระเบื้อง สำหรับบ้านแต่ละหลังนั้น ก็ต้องใช้งบประมาณพอสมควร
การปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก
ในปัจจุบัน มีผู้นิยมปูพื้นด้วย กระเบื้องเซรามิคส์ มากขึ้น เนื่องจากมีลวดลายต่าง ๆ มากมายให้ได้เลือกใช้ ตลอดจนหาซื้อได้ง่าย แต่กระเบื้องปูพื้นนั้น วิธีปฏิบัติเป็นแนวทาง ในการปูพื้นกระเบื้องเซรามิคส์ดังนี้
1.ต้องมั่นใจว่า พื้นที่จะปู กระเบื้อง นั้นได้ทำ ความสะอาด เป็นที่เรียบร้อย ไม่มี คราบฝุ่น น้ำมัน รอยสกปรกติดอยู่ ตลอดจนไม่ลืมตรวจเช็ค ระดับพื้น หรือแนวระนาบของผนังที่จะปูถ้าไม่ได้ระดับ หรือระนาบควรตกแต่ง หรือปรับให้ได้แนวที่ต้องการ
2. พื้นที่ที่จะปู กระเบื้อง ต้องแห้ง ไม่มีความชื้น หากเป็นพื้นหรือผนังคอนกรีตนั้น พื้นที่ที่จะ ปูกระเบื้อง ได้ต้องทิ้งไว้ ให้แห้งหลังการเทพื้นหรือฉาบแล้วอย่างน้อยเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ จนแน่ใจว่าพื้นไม่มีความชื้นแล้ว จึงเริ่มลงมือปูกระเบื้องได้ครับ เพราะหากพื้นที่จะปูกระเบื้อง มีความชื้นอยู่จะมีผล ทำให้แรงยึดกันระหว่าง พื้นและวัสดุปูพื้น อ่อนลง สำหรับ พื้นชั้นล่าง ที่อยู่ติดพื้นดิน ควรรองพื้นด้วย แผ่นพลาสติก และปูนซีเมนต์ผสมทราย ที่จะทำการเทพื้นปรับระดับควรผสมน้ำยากันซึม เพื่อป้องกันความชื้นซึมขึ้นมาตามร่องยาแนว หรือผิวของกระเบื้อง
3. ในการปูกระเบื้อง นั้น ควรเว้นร่องประมาณ 1-3 ม.ม. เพื่อป้องกันปัญหาการโก่งแอ่นหลังจากการปูและใช้งาน ในการปูกระเบื้องในปัจจุบันนั้นมีวัสดุประสานอยู่สองชนิดใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ ใช้กาวซีเมนต์ หรือปูนซีเมนต์ ตามอัตราส่วน (ยกเว้น การปูกระเบื้อง ทับพื้นเดิม ซึ่งควรใช้กาวซีเมนต์ชนิดพิเศษปู หรือใช้น้ำยา ที่ช่วยเพิ่ม แรงยึดเกาะ ผสมกับกาวซีเมนต์ทั่วไป ไม่ควรใช้ปูนซีเมนต์ผสมทรายเพียงอย่างเดียว) ในการปูพื้นกระเบื้องใหม่ แนะนำให้ใช้ปูนกาวซีเมนต์ เนื่องจากมี ความแข็งแรงทนทาน สามารถยึดเกาะได้ดี รวมทั้งสะดวกและรวดเร็วกว่า เมื่อเตรียมการ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงปูกระเบื้องโดย เริ่มปูจาก แนวที่ติดผนัง 1 แนว จัดกระเบื้องให้ลงตัว และตีแนว กระเบื้องที่ผนัง (บรรดาช่างมักจะเรียกกรรมวิธีนี้ว่า ตีปักเต๊า) แล้วปูกระเบื้อง จากพื้นขึ้นไปถึงจุดที่จะหยุดกระเบื้อง 1 แถว เพื่อให้ กระเบื้องลงตัว ไม่เหลือเศษบนและล่าง เสร็จแล้วจึงปูกระเบื้องตามแนวที่วางไว้ครับ
4. เมื่อปูกระเบื้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะต้องทิ้งให้ซีเมนต์แห้งอย่างน้อย 24 ช.ม. แล้วจึงยาแนว โดยปาด ตามแนวเฉียง กับร่องกระเบื้อง เพื่อให้ตัวยาแนว ลงร่องอย่างสม่ำเสมอ(ข้อสำคัญ คือ ต้องไม่ลืมทำ ความสะอาด ร่องระหว่างกระเบื้อง ก่อนการยาแนวนะครับ) เมื่อยาแนวเป็นที่เรียบร้อย ก็ควรที่จะต้องทิ้งพื้นที่ดังกล่าว ไว้ 1 อาทิตย์ก่อน การใช้งาน โดยทำความสะอาดกระเบื้อง หลังจากปุเสร็จแล้ว 24-36 ชั่วโมงและหลังจากพื้นกระเบื้องแห้ง ทำการเช็ดผิวของกระเบื้องอีกครั้ง ด้วยผ้าสะอาด
Read more: http://www.novabizz.com/CDC/Process24.htm#ixzz29LQkHDDP
บทความที่เกี่ยวข้อง
งานพื้น
01.งานพื้น
02.พื้นพรม
03.พื้นไม้จริง
04.พื้นไม้ปาร์เก้
05.พื้นหินแกรนิตและหินอ่อน
06.พื้นกระเบื้องเซรามิก
07.พื้นกระเบื้องหินขัด
08.พื้นกระเบื้องยาง
09.พื้นคอนกรีตบล็อก
10.ข้อสังเกตเกี่ยวกับงานปูพื้น
02.พื้นพรม
03.พื้นไม้จริง
04.พื้นไม้ปาร์เก้
05.พื้นหินแกรนิตและหินอ่อน
06.พื้นกระเบื้องเซรามิก
07.พื้นกระเบื้องหินขัด
08.พื้นกระเบื้องยาง
09.พื้นคอนกรีตบล็อก
10.ข้อสังเกตเกี่ยวกับงานปูพื้น