ชนิดของท่อพีวีซี

ในประเทศไทยของเรานั้น มีบริษัทหลายบริษัท ผลิต ท่อ ขึ้น มาขาย ซึ่งมีตั้งแต่บริษัทขนาดใหญ่ ตั้งแต่ ท่อน้ำไทย นวพลาสติกฯ CP และบริษัท อื่น ๆ มากมาย ท่อน้ำไทย จะผลิตท่อมา 3 เกรด 3 ยี่ห้อ โดยมีตราของท่อน้ำไทยประทับไว้บนท่อ คือ ท่อน้ำไทย Hilon และ ท่อโพลี ส่วน นวพลาสติก ก็ผลิตท่อ 2 เกรด 2 ยี่ห้อ คือ ตราช้าง และ ตราเสือ

ท่อเกรดดี ๆ คงเป็น ท่อเกรด ท่อน้ำไทย และ ตราช้าง รองลงมาก็ เสือ และ Hilon ส่วนอื่นๆ ก็รองลงมา ตามส่วนผสมของวัสดุ ที่ผสมเข้าไป



ท่อพีวีซี (PVC.) แบ่งตามชนิดการใช้งาน โดยใช้สี ดังนี้

1. ท่อสีเหลือง เป็นท่อสำหรับร้อยสายไฟฟ้า และสาย โทรศัพท์ เพราะสามารถทนต่อความร้อนได้อย่างดี

2. ท่อสีฟ้า เป็นท่อใช้งานสำหรับ ระบบน้ำดื่ม หรือ งานท่อระบายน้ำ มีความหนาตามระดับการรับแรงดัน ตั้งแต่ ชั้น PVC 5 ,8.5 และ 13.5 ตาม มาตรฐาน มอก.17-2532 ชั้นหนาสุดก็คงเป็น PVC 13.5
ตัวเลข13.5 เป็นค่าแรงดันใช้งาน มีหน่วยเป็น kgf/cm2

3. ท่อสีเทา เป็นท่อที่ใช้สำหรับการเกษตร หรือน้ำทิ้งก็ได้ ราคาค่อนข้างถูก ไม่ค่อยแข็งแรง ควรจะเดินลอย ไม่ควรฝังดิน คุณภาพที่ดี ก็มีของ ตราช้าง รองลงมาก็เป็น ท่อสีเขียวขี้ม้า ชื่อ OK ของตราช้าง เช่นเดียวกับท่อเทาเกษตรของ ท่อน้ำไทย ใช้ชื่อว่าท่อ 5 ดาว ซึ่งค่อนข้างแข็งและกรอบเร็ว นอกจากนี้ก็มีท่อเกษตร ยี่ห้ออื่นๆอีก ไม่ว่าจะเป็นของ อริยะ CP TSD เป็นต้น

4. ท่อไซเลอร์ ภายนอกเป็นท่อเหล็ก GSP. ภายในเป็นท่อ PE. ข้อดี มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี ทนทานต่อแรง กระแทกได้ ไม่หักงอ ทนต่อความดันได้มากกว่า 20 บาร์ และอุณหภูมิสูง ถึง 95 องศา ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับ ใช้ติดตั้งใน โรงแรม อาคารขนาดใหญ่ สถานที่ ๆ ต้องการความทนทานสูง หรือสถานที่ ที่ยากต่อการซ่อมแซม แต่ก็มีข้อเสียที่ราคาสูง

5. ท่อพีพีอาร์ เกิดจากการ Random Copolymer Polypropylene ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง(Thermo Plastic) ที่นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้น พัฒนาทางด้านเทคโนโลยีระบบท่อประปาพลาสติกภายใต้คุณสมบัติด้านฟิสิกส์ และเคมีทำให้ท่อพลาสติกที่ทำด้วยวัสดุพิเศษข้อดี การเชื่อมต่อระหว่างท่อ กับข้อต่อ ใช้วิธีการให้ความร้อน โดยคุณสมบัติพิเศษของจึงทำให้ท่อและข้อต่อสามารถเชื่อมผสานกันเป็นเนื้อ เดียว จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาการรั่วซึม ที่บริเวณจุดต่อเชื่อมระหว่างท่อและข้อต่อ ทนอุณหภูมิได้สูง ถึง 95 องศา แข็งแรง ทนแรงดันได้สูงถึง 20 บาร์ อายุการใช้งาน ยาวนานกว่า 50 ปี ไม่เป็นสนิม สะอาด สามารถใช้เป็นท่อน้ำดื่มได้ เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งใน บ้านพักอาศัย คอนโด ตึกแถว อาคารขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ แต่ข้อเสียของท่อประเภทนี้ ก็คือไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกแรง ๆ ได้ และไม่เหมาะกับการติดตั้งใต้พื้นดิน หรือพื้นคอนกรีตที่มีการทรุดตัวมาก

6. ท่อ PE - Poly Ethylene ท่อโพลีเอทิลีน (HDPE) เป็นวัสดุทางเคมีที่มีค่าความหนาแน่นสูง "ไม่น้อยกว่า 950 Kg/m3" ที่มีคุณสมบัติทางเคมี,ไฟฟ้าและทางกลที่ดีเยี่ยม สามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้เป็นวัสดุที่เหมาะสม กับสภาวะการใช้งานในวงการต่างๆ ในปัจจุบัน ซึ่งท่อโพลีเอทิลีน หรือ เอชดีพีอี หรือบางหน่วยงานก็เรียกว่า ท่อพีอี PE นั้น ก็คือท่อโพลีเอทิลีน (HDPE) ที่ผลิตจากวัสดุโพลีเอทิลีนที่มาจากขั้นตอนทางเคมีทั้งสิ้น คุณสมบัติที่พิเศษของท่อ PE ก็คือ

- น้ำหนักเบา 1/5 ของท่อเหล็ก สะดวกในการเคลื่อนย้าย
- ยืดหยุ่นได้ดี ทนแรงกระแทก
- ไม่มีสารพิษ
- ขดเป็นม้วนได้ (ยาวสูงสุดได้ถึง 400 เมตร)
- ทนสารเคมี อายุการใช้งานยาวนาน
- ทนแสงอาทิตย์
- ผิวในท่อเรียบ ของเหลวไหลสะดวก

ทั้งนี้การเลือกใช้ท่อแต่ละประเภท ก็ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานนะคะ อย่าประหยัดเงินเล็กน้อยแล้วนำท่อที่ไม่เหมาะสมมาใช้ เพราะในระยาวคุณอาจต้องประสบปัญหาในการซ่อมแซมแก้ไขทั้งระบบก็ได้

ขอบคุณที่มา http://www.novabizz.com/CDC/System/Water_Pipe.htm
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต




บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องเกี่ยวกับงานประปา

01.เรื่องเกี่ยวกับน้ำประปา

ใหม่กว่า เก่ากว่า